วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วุฒิภาวะ 1
1. ท่านจะเลือกมีชีวิตอยู่แบบใด เหมือนถูกสะกดจิต (คน 99% เลือกแบบนี้) หรืออยู่อย่างตื่นตัว (เจริญพัฒนา = อย่างมีวุฒิภาวะ)
2. การแก่ตัวไม่ได้แปลว่าท่านฉลาดขึ้น โง่เมื่ออายุน้อย แต่ถ้ายังยึดพฤติกรรมแบบเครื่องหุ่นยนต์ก็จะยังคงเป็นคนโง่ที่แก่ตัวขึ้นเท่านั้นเอง
3. ความตายจะมาถึงคนที่แก่ตัวและสูงอายุ แต่ไม่เคยมาถึงคนที่มีวุฒิภาวะ(เจริญพัฒนา) คนที่มีวุฒิภาวะจะไม่ตายเพราะว่าเขาจะเรียนรู้เเม้ขณะจะตาย ความตายก็จะเป็นประสบการณ์ที่เขาอยู่อย่างใจจดใจจ่อเพื่อเฝ้าดู และยอมรับ
4. คนที่เจริญพัฒนาหรือมีวุฒิภาวะ ปราศจากความตาย มีความหยั่งรู้ สงบสุขและเบิกบาน
5. วิถีเข้าสู่ภาวะแห่งการเจริญพัฒนา และมีสติซึ่งทำให้ไม่ตายนั้น สื่อสารได้แต่ไร้ประโยชน์เพราะมันเป็นเพียงสัญญา (เป็นแค่ความรู้มิใช่การตรัสรู้ ซ่งต้องรู้เอง เห็นเองโดยมีประสบการณ์เอง) มีเหตุอะไรที่จะทำให้เป็นผู้มีสติ ตื่นรู้และเห็นความจริง เหตุอะไรที่ทำให้ท่านหลับใหลอยู่
วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
มหาโยคะ 8
41. เมื่อทุกคนมีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้าที่เป็นหนึ่ง เขาจะเกิดความรู้สึกร่วมที่เป็นรากฐานของความรักที่แท้จริงในหมู่มวลมนุษยชาติอันเป็นทางรอดที่แท้จริง
42. วิถีชีวิตที่ดีงาม ตั้งอยู่บนความจริง ความรัก และความเรียบง่าย
43. จิตวิญญาณของมนุษย์เป็นนิรันดร ประสบการณ์ของจิตจะดำรงอยู่อย่างไม่มีขีดจำกัด ชีวิตของแต่ละคนคือการเรียนรู้ซึ่งจะยกจิตให้สมบูรณ์บรรลุถึงขั้นสูงสุดเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าซึ่งเป็นต้นตอแห่งจิต
44. การอุทิศตนรับใช้ผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ คือการกระทำทีี่สูงสุดสำคัญยิ่งกว่าการบำเพ็ญตะบะ ถือศีลอด และปฏิบัติธรรมรูปแบบใดทั้งปวง
45. "โอม นะมะ ศิวะ" ท่องไว้ในใจ และออกเสีียงเสมอตลอดเวลา จะน้อมใจสู่พระเจ้า ขจัดความคิดฟุ้งซ่าน ความคิดที่ไร้สาระซึ่งออกจากใจ
หมายเหตุ : อาจท่องชื่อพระเจ้าที่ผู้ฝึกเคารพบูชาแทน เช่น "โอม นะมะ พุทธะ "
46. ถึงแม้นจะเป็นฆราวาสก็สามารถบรรลุถึงความเป็นอิสระและเสรีภาพอย่างสมบูรณ์ได้ ถ้าละความยึดมั่นถือมั่นได้อย่างสิ้นเชิง
47. จักร : สพานเชื่อมกายกับจิต เป็นสิ่งเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับสิ่งสูงกว่า จักรเป็นจุดเชื่อมต่อกับมิติอื่น ผู้ใดหั่นปลุกจักร พลังจักรวาลจำนวนมหาศาลจะหลั่งไหลเข้าสู่ตัวโดยผ่านจักร กลายเป็นพลังภายในของคนผู้นั้นทำให้เขามีความสามารถต่าง ๆ นานาที่แต่เดิมเขาไม่มี
วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
มหาโยคะ 7
36. ผู้ใดที่หยั่งรู้ว่าตัวเองเป็นบุตรพระเจ้า ผู้นั้นจะมีพลังอำนาจแฝงภายในที่จะบรรลุจุดประสงค์ทุกอย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะมนุษย์ทุกคนมีแหล่งผลิตพลังงานที่มีความเป็นพระเจ้าเหมือนกันทั้งสิ้น ดุจหินก้อนเล็กที่แฝงไว้ด้วยพลังนิวเคลียร์มหาศาล
37. ผู้คนส่วนใหญ่ในโลกนี้ประสบอุปสรรคในการปฏิบัติธรรม และยกระดับจิตวิญญาณ เพราะว่าพวกเขามีพันธะทางครอบครัวและมีภาระทางสังคมอันหนักอึ้งที่ต้องแบกไว้
38. การใช้ชีวิตที่สมดุลทั้งภายนอกและภายในจะทำให้เห็นว่าการหลุดพ้นที่แท้จริงนั้นหาใช่การละทิ้งโลกภายนอกแต่อย่างใดไม่ แต่คือการละทิ้งโลกภายในต่างหาก (ทิ้งโลกียวิสัย(กิเลส) ภายใน)
39. จงเข้ามาหาด้วยหัวใจที่นอบน้อมถ่อมตน ผู้ปฏิบัติธรรมตามหลักโยคะ (สมาธิ ริยาโยคะ) แม้นจะเป็นจำนวนน้อยของหมวดธรรมนี้ก็ยังป้องกันภัยมืด คือ ทุกข์อันเนื่องมาจากการเวียนว่ายตายเกิดได้
40. การที่จะสามารถเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้านั้นล้วนขึ้นอยู่กับความพยายาม ความเพียรแห่งตนเป็นสำคัญ ไม่ขึ้นอยู่กับความเชื่อหรือศรัทธาในศาสนา หรือเจตนาของเทพแต่อย่างไร
37. ผู้คนส่วนใหญ่ในโลกนี้ประสบอุปสรรคในการปฏิบัติธรรม และยกระดับจิตวิญญาณ เพราะว่าพวกเขามีพันธะทางครอบครัวและมีภาระทางสังคมอันหนักอึ้งที่ต้องแบกไว้
38. การใช้ชีวิตที่สมดุลทั้งภายนอกและภายในจะทำให้เห็นว่าการหลุดพ้นที่แท้จริงนั้นหาใช่การละทิ้งโลกภายนอกแต่อย่างใดไม่ แต่คือการละทิ้งโลกภายในต่างหาก (ทิ้งโลกียวิสัย(กิเลส) ภายใน)
39. จงเข้ามาหาด้วยหัวใจที่นอบน้อมถ่อมตน ผู้ปฏิบัติธรรมตามหลักโยคะ (สมาธิ ริยาโยคะ) แม้นจะเป็นจำนวนน้อยของหมวดธรรมนี้ก็ยังป้องกันภัยมืด คือ ทุกข์อันเนื่องมาจากการเวียนว่ายตายเกิดได้
40. การที่จะสามารถเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้านั้นล้วนขึ้นอยู่กับความพยายาม ความเพียรแห่งตนเป็นสำคัญ ไม่ขึ้นอยู่กับความเชื่อหรือศรัทธาในศาสนา หรือเจตนาของเทพแต่อย่างไร
มหาโยคะ 6
30. โลกวัตถุถูกชักใยโดยกฎแห่งมายา หรือหลักแห่่งความเป็นคู่ กับความเป็นสัมพันธภาพ
31. วิทยาศาสตร์แห่งวัตถุไม่อาจค้นหากฎที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของมายาที่เป็นองค์ฐานให้กับโลกแห่งปรากฏการณ์ได้
32. ผู้มีจิตสำนึกว่าตนคือจิตวิญญาณสากล ดำรงอยู่ในทุกแห่ง ... จะหมดความจำเป็นที่จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางกายภาพในฐานะที่เป็นร่างกายอยู่ในกรอบเวลา และสถานที่
33. ธาตุแท้แห่งจักรวาล คือ เเสง และคลื่นของพลังชีวิต
34. โยคีที่หลุดจากจิตสำนึกทางวัตถุโดยสิ้นเชิงสามารถปลดปล่อยตนจากพื้นที่แห่งสามมิติ และจากเวลาแห่งสี่มิติได้ ย่อมเคลื่อนย้ายกายตนไปสู่แสงได้ดังใจชอบ
35. ถ้าดวงตาที่สามเปิด ย่อมแลเห็นได้ชัดว่า กายตนเต็มไปด้วยแสง ความหลงผิดเกี่ยวกับวัตถุ หรือน้ำหนักเป็นมายาหลอกลวงเราจะถูกทำลายลงได้โดยการฝึกเพ่งจิตไปที่ "ตาที่สาม" เป็นเวลานาน ซึ่งจะก่อให้เกิดอภิญญาหรืออิทธิฤทธิ์ จักเกิดแต่ผู้ตรัสรู้อย่างแท้จริงว่าธาตุแท้ของสิ่งที่ถูกสร้างทั้งปวงคือแสง เขาสามารถใช้อนุภาคของแสงเนรมิตสิ่งต่าง ๆ ขึ้นได้ดังจินตนาการของเขา
31. วิทยาศาสตร์แห่งวัตถุไม่อาจค้นหากฎที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของมายาที่เป็นองค์ฐานให้กับโลกแห่งปรากฏการณ์ได้
32. ผู้มีจิตสำนึกว่าตนคือจิตวิญญาณสากล ดำรงอยู่ในทุกแห่ง ... จะหมดความจำเป็นที่จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางกายภาพในฐานะที่เป็นร่างกายอยู่ในกรอบเวลา และสถานที่
33. ธาตุแท้แห่งจักรวาล คือ เเสง และคลื่นของพลังชีวิต
34. โยคีที่หลุดจากจิตสำนึกทางวัตถุโดยสิ้นเชิงสามารถปลดปล่อยตนจากพื้นที่แห่งสามมิติ และจากเวลาแห่งสี่มิติได้ ย่อมเคลื่อนย้ายกายตนไปสู่แสงได้ดังใจชอบ
35. ถ้าดวงตาที่สามเปิด ย่อมแลเห็นได้ชัดว่า กายตนเต็มไปด้วยแสง ความหลงผิดเกี่ยวกับวัตถุ หรือน้ำหนักเป็นมายาหลอกลวงเราจะถูกทำลายลงได้โดยการฝึกเพ่งจิตไปที่ "ตาที่สาม" เป็นเวลานาน ซึ่งจะก่อให้เกิดอภิญญาหรืออิทธิฤทธิ์ จักเกิดแต่ผู้ตรัสรู้อย่างแท้จริงว่าธาตุแท้ของสิ่งที่ถูกสร้างทั้งปวงคือแสง เขาสามารถใช้อนุภาคของแสงเนรมิตสิ่งต่าง ๆ ขึ้นได้ดังจินตนาการของเขา
มหาโยคะ 5
24. ทุกข์ของมนุษย์ล้วนเกิดจากการละเมืดล่วงเกินกฎของจักรวาลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มนุษย์ควรมีความศรัทธาในพระเจ้าควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามกฎของธรรมชาติ คนเราสามารถผ่อนเบากรรมเก่าได้ด้วยการภาวนา ด้วยพลังจิตที่เข้มแข็ง ด้วยสมาธิของโยคะและด้วยความช่วยเหลือของอริยะบุคคล
25. มนุษย์มีแกนกลางกระดูกสันหลังที่เร้นลับแหลมคมฉับไว และมีแกนสมองใหญ่ที่มีศักยภาพที่จะรู้ทุกสรรพสิ่งได้
26. ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของอินเดียกล่าวไว้ชัดเจนว่า จุดประสงค์ที่มนุษย์กลับชาติมาเกิดบนโลกนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ซ้ำ ๆ ๆ ๆ ... เพื่อเรียนรู้วิชา หรือวิธีการที่แสดงถึงจิตวิญญาณที่มีอำนาจเหนือวัตถุอย่างสิ้นเชิงกับผ่านประสบการณ์ชีวิตนับชาติไม่ถ้วน เพื่อให้เขาสามารถสำแดงคุณสมบัติแห่งพระเิจ้าที่ไร้ขอบเขตแห่งจิตวิญญาณออกมาภายใต้เงื่อนไขทางวัตถุที่จำกัดนั้นเอง
27. เพราะว่าความไม่รู้ทางจิตวิญญาณ หรืออวิชชา หรือการลืมความเป็นพระเจ้าในตนเองของมนุษย์ คือที่มาแห่งทุกข์ทั้งปวง
28. ตัวเราคือจิตวิญญาณและปราณ (พลังชีวิต คือ รูปลักษณ์หนึ่งของ "โอม" ที่เป็นคลื่นของจิต วิญญาณสากล) เป็นสิ่งให้ชีวิตแก่กาย
29. แม้นแค่ฝึกปราณให้ไหลเวียนขึ้นลง รอบ ๆ แกนกระดูกสันหลังเหล่านี้เพียงแค่ 30 วินาที เท่านั้น จิตวิญญาณของมนุษย์ผู้นั้นก็จะวิวัฒน์ไปอีกก้าวหนึ่งเมื่อเทียบกับระยะเวลาหนึ่งของวิวัฒนาการตามธรรมชาติของคนที่ใช้ชีวิตธรรมดา
25. มนุษย์มีแกนกลางกระดูกสันหลังที่เร้นลับแหลมคมฉับไว และมีแกนสมองใหญ่ที่มีศักยภาพที่จะรู้ทุกสรรพสิ่งได้
26. ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของอินเดียกล่าวไว้ชัดเจนว่า จุดประสงค์ที่มนุษย์กลับชาติมาเกิดบนโลกนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ซ้ำ ๆ ๆ ๆ ... เพื่อเรียนรู้วิชา หรือวิธีการที่แสดงถึงจิตวิญญาณที่มีอำนาจเหนือวัตถุอย่างสิ้นเชิงกับผ่านประสบการณ์ชีวิตนับชาติไม่ถ้วน เพื่อให้เขาสามารถสำแดงคุณสมบัติแห่งพระเิจ้าที่ไร้ขอบเขตแห่งจิตวิญญาณออกมาภายใต้เงื่อนไขทางวัตถุที่จำกัดนั้นเอง
27. เพราะว่าความไม่รู้ทางจิตวิญญาณ หรืออวิชชา หรือการลืมความเป็นพระเจ้าในตนเองของมนุษย์ คือที่มาแห่งทุกข์ทั้งปวง
28. ตัวเราคือจิตวิญญาณและปราณ (พลังชีวิต คือ รูปลักษณ์หนึ่งของ "โอม" ที่เป็นคลื่นของจิต วิญญาณสากล) เป็นสิ่งให้ชีวิตแก่กาย
29. แม้นแค่ฝึกปราณให้ไหลเวียนขึ้นลง รอบ ๆ แกนกระดูกสันหลังเหล่านี้เพียงแค่ 30 วินาที เท่านั้น จิตวิญญาณของมนุษย์ผู้นั้นก็จะวิวัฒน์ไปอีกก้าวหนึ่งเมื่อเทียบกับระยะเวลาหนึ่งของวิวัฒนาการตามธรรมชาติของคนที่ใช้ชีวิตธรรมดา
มหาโยคะ 4
19. ผู้แสวงหาพระเจ้าอย่างจริงใจจะได้รับการปลดปล่อยจากสัญชาตญาณทั้งปวง นั่นคือแปรความอยากบนโลกให้เป็นความรักที่มีต่อพระเจ้าผู้เดีียว
20. นักวิชาการหรือปัญญาชนต้องระวังไม่ให้สิ่งที่ตนพูดเป็นความคิดอันล้ำเลิศแต่สิ่งที่ทำกลับเป็นเรื่องต่ำช้า ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการฝึกฝนตนเองอย่างเข้มงวด หรือมิได้ปฏิบัติธรรม ปัญญามิใช่มาด้วยตา หรือสมอง แต่ต้องมาได้จากทุกอณูในกายทั้งหมดซึ่งซึมซับเอาสัจธรรมเข้าไปเป็นของตนเอง ปริญญากับการรู้แจ้งในพระเวทไม่เกี่ยวข้องกันเลย
21. มนุษย์หากยิ่งตื่นในความเป็นจิตวิญญาณของตนมากเท่าใด เขายิ่งถูกครอบงำโดยวัตถุน้อยลงเพียงนั้น จิตวิญญาณเป็นสิ่งที่เป็นเสรีตลอดกาล ไม่มีเกิด ไม่มีตาย และไม่ถูกบงการโดยตวงดาว
22. มนุษย์คือจิตวิญญาณ กายเป็นเพียงสิ่งอาศ้ัยชั่วคราวเท่านั้น ถ้ามนุษย์รับรู้แก่นแท้แห่งตนอย่างถูกต้องย่อมจะเป็นอิสระจากการถูกจองจำโดยกฏต่าง ๆ ของปรากฏการณ์ทั้งปวง
23. แผนที่ไม่จำเป็นสำหรับนักเดินทางก็ต่อเมื่อเขาถึงท่หมายแล้ว ดังนั้นระหว่างเดินทางแผนที่เป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้นักเดินทาง ไม่หลงทางไปทาทางไปทางลัดฉันใด นักปราชญ์และอริยบุคคลโบราณได้ค้นวิธีการหลายอย่างที่จะช่วยให้ร่นระยะทางในการเดินทางท่ามกลางความหลงได้ นั่นคือปัญญาสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเข้ากระทำ และส่งผลต่อกฎแห่งกรรมได้
20. นักวิชาการหรือปัญญาชนต้องระวังไม่ให้สิ่งที่ตนพูดเป็นความคิดอันล้ำเลิศแต่สิ่งที่ทำกลับเป็นเรื่องต่ำช้า ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการฝึกฝนตนเองอย่างเข้มงวด หรือมิได้ปฏิบัติธรรม ปัญญามิใช่มาด้วยตา หรือสมอง แต่ต้องมาได้จากทุกอณูในกายทั้งหมดซึ่งซึมซับเอาสัจธรรมเข้าไปเป็นของตนเอง ปริญญากับการรู้แจ้งในพระเวทไม่เกี่ยวข้องกันเลย
21. มนุษย์หากยิ่งตื่นในความเป็นจิตวิญญาณของตนมากเท่าใด เขายิ่งถูกครอบงำโดยวัตถุน้อยลงเพียงนั้น จิตวิญญาณเป็นสิ่งที่เป็นเสรีตลอดกาล ไม่มีเกิด ไม่มีตาย และไม่ถูกบงการโดยตวงดาว
22. มนุษย์คือจิตวิญญาณ กายเป็นเพียงสิ่งอาศ้ัยชั่วคราวเท่านั้น ถ้ามนุษย์รับรู้แก่นแท้แห่งตนอย่างถูกต้องย่อมจะเป็นอิสระจากการถูกจองจำโดยกฏต่าง ๆ ของปรากฏการณ์ทั้งปวง
23. แผนที่ไม่จำเป็นสำหรับนักเดินทางก็ต่อเมื่อเขาถึงท่หมายแล้ว ดังนั้นระหว่างเดินทางแผนที่เป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้นักเดินทาง ไม่หลงทางไปทาทางไปทางลัดฉันใด นักปราชญ์และอริยบุคคลโบราณได้ค้นวิธีการหลายอย่างที่จะช่วยให้ร่นระยะทางในการเดินทางท่ามกลางความหลงได้ นั่นคือปัญญาสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเข้ากระทำ และส่งผลต่อกฎแห่งกรรมได้
วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
มหาโยคะ 3
14. ผู้รู้ซึ้งถึงธาตุแท้ของวัตถุมิใช่นักฟิสิกส์ แต่เป็นมหาโยคีที่ลุอย่างแท้จริง
15. ไม่มีอุปสรรคใดเลยที่จะเอาชนะไม่ได้ในการที่มนุษย์จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ขอเพียงผู้นั้นไม่สูญเสียจิตใจที่มุ่งแสวงหาทางจิตวิญญาณเท่านั้น
16. พระเจ้าจะปรากฏขึ้นเหนือกายที่มีสุขภาวะที่ดี และใจที่แข็งแรง
กาย: วางใจไม่ได้ ดูแลให้ดีตามอัตภาพ แต่อย่าฟูมฟักทะนุถนอมจนเกินไป ทุกข์สุขเป็นของชั่วคราว ทำใจให้สงบ เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์ที่เกิดจากทวิภาวะ(ความเป็นคู่) ด้วยใจที่เยือกเย็น พยายามทำตัวเองให้พ้นอำนาจมัน
17. โรคและการหายจากโรค โรคเป็นสิ่งภายนอกเข้าสู่ตัวเราโดยผ่านทวารที่เรียกว่า จินตนาการ ถ้าขับไล่ความคิดว่าตัวเราไม่สบายออกไปจากตัวได้ โรคก็ต้องไปจากเราดุจผู้มาเยือนที่เจ้าของไม่ต้อนรับ
18. การมุ่งแสวงหาความสำราญจากประสาทสัมผัสโดยไม่หยุดหย่อน คือบ่อนทำลายสันติสุขแห่งใจโดยแท้ เป็นการเจาะรูที่ก้นถังทำให้น้ำซึ่งเป็นพลังแห่งชีวิตถูกดูดซึมหายไปในทะเลทรายแห่งวัตถุนิยมไปจนหมดสิ้น
15. ไม่มีอุปสรรคใดเลยที่จะเอาชนะไม่ได้ในการที่มนุษย์จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ขอเพียงผู้นั้นไม่สูญเสียจิตใจที่มุ่งแสวงหาทางจิตวิญญาณเท่านั้น
16. พระเจ้าจะปรากฏขึ้นเหนือกายที่มีสุขภาวะที่ดี และใจที่แข็งแรง
กาย: วางใจไม่ได้ ดูแลให้ดีตามอัตภาพ แต่อย่าฟูมฟักทะนุถนอมจนเกินไป ทุกข์สุขเป็นของชั่วคราว ทำใจให้สงบ เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์ที่เกิดจากทวิภาวะ(ความเป็นคู่) ด้วยใจที่เยือกเย็น พยายามทำตัวเองให้พ้นอำนาจมัน
17. โรคและการหายจากโรค โรคเป็นสิ่งภายนอกเข้าสู่ตัวเราโดยผ่านทวารที่เรียกว่า จินตนาการ ถ้าขับไล่ความคิดว่าตัวเราไม่สบายออกไปจากตัวได้ โรคก็ต้องไปจากเราดุจผู้มาเยือนที่เจ้าของไม่ต้อนรับ
18. การมุ่งแสวงหาความสำราญจากประสาทสัมผัสโดยไม่หยุดหย่อน คือบ่อนทำลายสันติสุขแห่งใจโดยแท้ เป็นการเจาะรูที่ก้นถังทำให้น้ำซึ่งเป็นพลังแห่งชีวิตถูกดูดซึมหายไปในทะเลทรายแห่งวัตถุนิยมไปจนหมดสิ้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)